
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา หมายถึง คดีที่มีการฟ้องร้องทั้งในทางแพ่งและทางอาญาในเรื่องเดียวกัน โดยคดีแพ่งจะเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหรือการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำผิดทางอาญา เช่น การทำร้ายร่างกาย การฉ้อโกง หรือการทำลายทรัพย์สิน
ความสำคัญของคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา
การดำเนินคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญามีความสำคัญเนื่องจาก :
การชดเชยความเสียหาย: ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้กระทำผิดเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น
การป้องกันการกระทำผิดซ้ำ: การดำเนินคดีทางอาญาช่วยป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดกระทำผิดซ้ำอีก
การสร้างความยุติธรรม: การดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาช่วยสร้างความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหายและสังคม
กฎหมายที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย
การดำเนินคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาอยู่ภายใต้บทบัญญัติของ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งกำหนดขั้นตอนและข้อกำหนดในการดำเนินคดีทั้งสองประเภท
ขั้นตอนการดำเนินคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา
การแจ้งความและการสืบสวน:
เมื่อเกิดการกระทำผิดทางอาญา ผู้เสียหายสามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
การแจ้งความ : การแจ้งความคดีอาญาเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นกระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาผู้กระทำผิดและนำตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ดังนี้
ผู้เสียหายหรือผู้พบเหตุการณ์สามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด
การแจ้งความสามารถทำได้ทั้งด้วยวาจาและเป็นลายลักษณ์อักษร โดยต้องระบุรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น วันเวลา สถานที่ และลักษณะของการกระทำผิด
การรับแจ้งความ : เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาผู้กระทำผิดและนำตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับแจ้งความและบันทึกข้อมูลในบันทึกประจำวัน
เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้แจ้งความเพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม
การสืบสวนสอบสวน : การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล พยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด การสืบสวนสอบสวนช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถหาผู้กระทำผิดและนำตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน
การรับแจ้งความ:
กระบวนการเริ่มต้นเมื่อมีการแจ้งความจากผู้เสียหายหรือผู้พบเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับแจ้งความและบันทึกข้อมูลในบันทึกประจำวัน
การตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ:
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เช่น การถ่ายภาพ การเก็บลายนิ้วมือ การตรวจสอบวัตถุพยาน
การสอบปากคำพยาน:
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
การสอบปากคำจะถูกบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรหรือวิดีโอ
การวิเคราะห์หลักฐาน:
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะวิเคราะห์หลักฐานที่เก็บรวบรวมได้จากสถานที่เกิดเหตุและพยานหลักฐานอื่น ๆ
การวิเคราะห์อาจรวมถึงการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น การตรวจ DNA การตรวจสอบวัตถุพยานทางเทคนิค
การติดตามและจับกุมผู้ต้องสงสัย:
หากมีพยานหลักฐานที่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามและจับกุมผู้ต้องสงสัย
ผู้ต้องสงสัยจะถูกนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมและฝากขังในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่กำหนด
การจัดทำสำนวนการสืบสวน:
เมื่อการสืบสวนเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัดทำสำนวนการสืบสวนที่รวมถึงพยานหลักฐานทั้งหมดและรายงานการสอบสวน
สำนวนการสืบสวนจะถูกส่งไปยังพนักงานอัยการเพื่อตรวจสอบและพิจารณาการฟ้องร้อง
สิทธิของผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหา
สิทธิของผู้ต้องสงสัย:
มีสิทธิ์ที่จะไม่ถูกบังคับให้ยอมรับสารภาพหรือให้การเพิ่มเติมโดยใช้การข่มขู่หรือการบังคับ
มีสิทธิ์ที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและตามกระบวนการทางกฎหมาย
สิทธิของผู้ต้องหา:
มีสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม
มีสิทธิ์ที่จะมีทนายความในการป้องกันตนเองและสามารถนำเสนอพยานหลักฐานเพื่อป้องกันตนเองได้
บทบาทของพนักงานอัยการ
พนักงานอัยการ มีบทบาทสำคัญในการพิจารณาสำนวนการสืบสวนและการฟ้องร้องผู้ต้องหา พนักงานอัยการจะตรวจสอบพยานหลักฐานและตัดสินใจว่าจะฟ้องร้องหรือไม่ รวมถึงดำเนินการในกระบวนการพิจารณาคดีเพื่อให้ผู้ต้องหาได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม
ความสำคัญของการสืบสวนสอบสวน
การสืบสวนสอบสวนมีความสำคัญในการประกันความยุติธรรมและความปลอดภัยของสังคม การสืบสวนสอบสวนที่มีประสิทธิภาพช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถหาผู้กระทำผิดและนำตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
พนักงานอัยการจะทำการฟ้องร้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญาที่มีเขตอำนาจ
ศาลอาญาที่มีเขตอำนาจจะพิจารณาคดีและตัดสินว่าผู้ต้องหามีความผิดหรือไม่
การฟ้องร้องทางแพ่ง:
ผู้เสียหายสามารถยื่นฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้กระทำผิด
คดีแพ่งจะถูกพิจารณาโดยศาลแพ่ง ซึ่งจะพิจารณาความเสียหายที่เกิดขึ้นและกำหนดค่าสินไหมทดแทน
การพิจารณาคดีในศาล:
ศาลอาญาจะพิจารณาคดีทางอาญาและตัดสินว่าผู้ต้องหามีความผิดหรือไม่
ศาลแพ่งจะพิจารณาคดีทางแพ่งและกำหนดค่าสินไหมทดแทนที่ผู้กระทำผิดต้องชดใช้
ความสำคัญของคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา
การดำเนินคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญามีความสำคัญเนื่องจาก:
การชดเชยความเสียหาย: ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้กระทำผิดเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น
การป้องกันการกระทำผิดซ้ำ: การดำเนินคดีทางอาญาช่วยป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดกระทำผิดซ้ำอีก
การสร้างความยุติธรรม: การดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาช่วยสร้างความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหายและสังคม
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การดำเนินคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาอยู่ภายใต้บทบัญญัติของ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งกำหนดขั้นตอนและข้อกำหนดในการดำเนินคดีทั้งสองประเภท
ขั้นตอนการดำเนินคดี
กระบวนพิจารณาคดีในศาล จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนมาก จึงต้องมีการกำหนดวิธีปฏิบัติตามวันนัดพิจารณาคดีแต่ละนัดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ให้เป็นไปด้วยความยุติธรรม
ขั้นตอนการดำเนินคดีแพ่ง
1. ยื่นคำฟ้อง คำให้การ คำร้อง
ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่กล่าวในฟ้องมีพยานหลักฐานให้ศาลเชื่อได้ โจทก์เรียกร้องอะไรจากจำเลย
2. นัดพร้อม
เมื่อคู่ความทั้งสองฝ่ายมาศาลและต้องการที่จะให้มีการตกลงเจรจา ไกล่เกลี่ย กันก่อน ศาลจะสอบถามคู่ความทั้งสองฝ่ายว่าต้องการที่จะตกลงกันก่อนหรือไม่ มีพยานกี่ปาก แนวทางการสืบพยาน
3. นัดไกล่เกลี่ย
เมื่อเข้าห้องไกล่เกลี่ย เมื่อตกลงกันได้ก็จะมีการถอนฟ้องหรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่หากตกลงกันไม่ได้ สำนวนคดีก็จะถูกส่งกลับมาที่ห้องพิจารณาเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
4. นัดชี้สองสถาน
คือการกำหนดประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีและหน้าที่นำสืบ
5. นัดสืบพยาน
สืบพยานโจทก์ พยานจำเลย
6. นัดฟังคำพิพากษา ศาลจะอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟัง ศาลจะวินิจฉัยพยานหลักฐานทั้งปวงในคดี ถ้าศาลเห็นว่าพยานหลักฐานฝ่ายไหนมีเหตุผลน่าเชื่อกว่าก็ตัดสินให้ฝ่ายนั้นชนะ
ค่าบริการในการว่าความในศาลชั้นต้น
1. คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา
คดีไม่มีข้อพิพาทหรือคดีไม่มีทุนทรัพย์
เป็นคดีที่มีการร้องขอฝ่ายเดียว เพื่อใช้สิทธิทางกฎหมาย เช่น คดีร้องจัดการมรดก, คดีร้องขอทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ หรือบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น ค่าว่าความคิดขั้นต่ำคดีละ 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน)
หมายเหตุ กรณีมีการคัดค้านหรือมีการต่อสู้คดี ก็จะมีการตกลงกันอีกครั้ง
คดีมีข้อพิพาท หรือคดีมีทุนทรัพย์
กรณีที่ท่านเป็นโจทก์หรือโจทก์ร่วม ท่านต้องชำระค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีดังต่อไปนี้
คดีทุนทรัพย์ (บาท) | ค่าทนายความ (บาท) | ค่าวิชาชีพ(บาท) | ค่าบังคับคดี (ร้อยละ) |
ไม่เกิน 50,000 | ขึ้นกับข้อตกลงเป็นกรณี | ขึ้นกับข้อตกลงเป็นกรณี | 30 |
50,001 ถึง 100,000 | 15,000 | 10,000 | 30 |
100,001 ถึง 300,000 | 30,000 | 12,000 | 30 |
300,001 ถึง 500,000 | 35,000 | 14,000 | 30 |
500,001 ถึง 800,000 | 40,000 | 15,000 | 20 |
800,001 ถึง 1,000,000 | 45,000 | 17,000 | 20 |
1,000,001 ถึง 2,000,000 | 50,000 | 18,000 | 10 |
2,000,001 ถึง 3,000,000 | 60,000 | 19,000 | 10 |
3,000,001 บาทขึ้นไป | ขึ้นกับข้อตกลงเป็นกรณี | ขึ้นกับข้อตกลงเป็นกรณี | 10 |
เงื่อนไขการดำเนินงาน
1. ท่านต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียม(ค่าขึ้นศาล)และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการนำส่งคำ คู่ความเองเป็นค่าธรรมเนียมตามปกติของศาล
(ตามใบเสร็จรับเงิน) ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
คดีมโนสาเร่ ทุนทรัพย์ที่ฟ้อง ไม่เกิน 300,000 บาท เสียค่าขึ้นศาลไม่เกิน 1,000 บาท
คดีมีแพ่งสามัญ ทุน ทรัพย์ที่ฟ้อง ไม่เกิน 50 ล้านบาท เสียค่าขึ้นศาล ร้อยละ 2 แต่ไม่เกิน 200,000 บาท ส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท
ขึ้นไป เสียค่าขึ้นศาล ร้อยละ 0.1 บาท
ค่านำหมาย,ค่าประกาศหนังสือพิมพ์ (ถ้ามี),ค่าพาหนะของพยานหมาย (ถ้ามี)เป็นต้น
2. ท่านต้องชำระค่าทนายความตามทุนทรัพย์ก่อนที่จะทำคำฟ้องยื่นต่อศาล
3. ค่าบังคับคดี จะเรียกเก็บจากท่านต่อเมื่อมีการบังคับคดี หากไม่มีการบังคับคดีท่านไม่ต้องจ่ายค่าบังคับคดี
4. ค่าว่าความ (อัตราร้อยละ) คิดตามจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง (ตามฟ้อง) และ จะเรียกเก็บจากท่านต่อเมื่อ
ท่านได้รับเงินจากลูกหนี้หรือจำเลยแล้ว(ตามเกณฑ์เงินสดที่ท่านได้รับ)
5. กรณีทนายความไปศาลต่างจังหวัด บริษัทฯ จะเรียกเก็บอัตราค่าเดินทางไปศาลในแต่ละครั้ง ตามอัตราดังต่อไปนี้
ระยะทาง ไม่เกิน 300 กม. คิดค่าเดินทาง = 3,500 บาท
ระยะทาง 300 – 500 กม. คิดค่าเดินทาง = 4,500 บาท
ระยะทาง 500 กม. ขึ้นไป คิดค่าเดินทาง = 6,500 บาท
***สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร ท่านไม่ต้องชำระค่าเดินทางในส่วนนี้
หมายเหตุ
ค่าเดินทางดังกล่าวไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าที่พัก,ค่าตั๋วรถเดินทาง,ค่าน้ำมันรถยนต์,ค่าธรรมเนียมอื่นๆที่ทางราชการ หรือเอกชน
ออกให้ (ตามใบเสร็จรับเงิน)
6. คดีนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้นแล้ว จะตกลงกันตามความยากง่ายของการดำเนินคดี
7. การว่าจ้างมีการทำสัญญาว่าจ้างว่าความทุกครั้ง เพื่อให้ท่านเกิดความมั่นใจในการจ้างทนายความ
กรณีที่ท่านเป็นจำเลยหรือจำเลยร่วมในคดีแพ่ง
ในคดีที่มีการร้องสอดหรือร้องคัดค้านให้เป็นคดีมีข้อพิพาท คิดค่าว่าความ จำนวน 15,000 บาท(หนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน)
คดีที่ท่านถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีแพ่ง
ก.) คดีที่มีข้อพิพาทจากมูลละเมิด คิดค่าว่าความขั้นต่ำ ตั้งแต่ 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ขึ้นไป
ข.) คดีที่มีข้อพิพาทจากนิติกรรมสัญญา คิดค่าว่าความขั้นต่ำ ตั้งแต่ 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ขึ้นไป
ต่างจังหวัด ท่านต้องชำระค่าเดินทาง ตามอัตราดังต่อไปนี้
ระยะทาง ไม่เกิน 300 กม. คิดค่าเดินทาง = 2,500 บาท
ระยะทาง 300 – 500 กม. คิดค่าเดินทาง = 3,000 บาท
ระยะทาง 500 กม. ขึ้นไป คิดค่าเดินทาง = 4,000 บาท
หมายเหตุ
กรณีพิจารณาคดีออนไลน์ไม่มีค่าพาหนะ
ค่าเดินทางดังกล่าวไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ทางราชการหรือเอกชนออกให้ (ตามใบเสร็จรับเงิน)
หรือ ในราคาตกลงกัน แล้วแต่กรณี