ปลดหนี้ได้ถือเป็นลาภอันประเสริฐ ?

สาเหตุหนี้สินและวิธีแก้ไขอย่างไร ?

ปัญหาหนี้สินไม่ใช่จุดจบของชีวิต แต่คือบททดสอบวินัยทางการเงิน ! บทความนี้จะพาคุณวิเคราะห์สาเหตุหนี้แบบเจาะลึก พร้อมแผนแก้หนี้ขั้นเทพที่ใช้ได้จริงแม้เงินเดือนน้อย มาดูกันว่าคนไทยปลดหนี้สำเร็จกันอย่างไร ?

แผนภาพแสดงวิธีแก้หนี้แบบเป็นขั้นตอน
ภาพประกอบ: แนวทางการจัดการหนี้อย่างมีระบบ

5 สาเหตุเกิดหนี้ที่คนไทยเจอบ่อย

1. รายได้ไม่พอกับรายจ่าย

รายละเอียด:: รายได้เท่าเดิมแต่ค่าครองชีพพุ่ง หรือรายได้ลดลง แต่ยังใช้จ่ายแบบเดิมหรือมากขึ้น โดยเฉพาะผ่าน "บัตรเครดิต" หรือ "สินเชื่อส่วนบุคคล" ที่ทำให้รู้สึกว่า "มีเงินใช้" ทั้งที่จริงคือ "กู้หนี้มาใช้"

ตัวอย่าง : "น้องเมย์" พนักงานรับราชการเดือนละ 18,000 บาท ใช้บัตรเครดิตซื้อ iPhone รุ่นใหม่คาดว่าจะผ่อนไหว แต่เมื่อรวมค่าเช่าห้อง 5,000 ค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ 3,500 และค่าดูแลพ่อแม่ 3,000 กลับเหลือเงินไม่พอจ่ายค่างวดบัตร 4,500 บาท จนดอกเบี้ยทบต้นกว่า 20% ต่อปี

ตัวอย่าง : พนักงานออฟฟิศ (เดือนละ 25,000 บาท): ค่าเช่าห้อง 6,000, ผ่อนรถ 5,000, ค่าน้ำไฟ/โทรศัพท์ 2,000, ค่าอาหาร/เดินทาง 7,000 = เหลือ 5,000 บาท แต่ชอบช้อปออนไลน์ กินร้านดัง เที่ยวทุกอาทิตย์ ใช้บัตรเครดิตจ่ายเพิ่มเดือนละ 8,000 บาท → ใช้จ่ายเกินตัว เริ่มเป็นหนี้บัตรเครดิตทบต้น

ตัวอย่าง : แม่ค้าในตลาด: รายได้ไม่แน่นอน วันดีได้ 800-1,000 บาท/วัน วันร้ายขายไม่ออก แต่ต้องจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ ค่าเทอมลูก เลยต้องกด "สินเชื่อส่วนบุคคล" ดอกเบี้ยสูงมาโปะค่าใช้จ่ายรายเดือน → เริ่มจมหนี้เพราะดอกเบี้ยทบต้นปี

2. เหตุฉุกเฉินไม่คาดคิด

รายละเอียด : เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน ต้องใช้เงินก้อนใหญ่เกินกว่าที่จะออมฉุกเฉินไว้รองรับได้ ทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสินแบบไม่มีทางเลือก

ตัวอย่าง : พ่อบ้าน (พนักงานโรงงาน): แม่ป่วยหนักต้องผ่าตัดด่วน ค่ารักษาเบิกประกันสังคมไม่พอ ต้องจ่ายเพิ่ม 150,000 บาท → กู้ "หนี้นอกระบบ" ดอกเบี้ย 20%/เดือน (เพราะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำธนาคาร) → กลายเป็นหนี้ท่วม

ตัวอย่าง : ครอบครัวในต่างจังหวัด: บ้านโดนน้ำท่วมเสียหายหนัก ซ่อมแซมขั้นต่ำ 50,000 บาท → ต้องกู้ "เงินกองทุนหมู่บ้าน" หรือ "สหกรณ์" มาใช้ทั้งที่ยังมีหนี้ผ่อนรถอยู่ → รายจ่ายเพิ่มทันที

ตัวอย่าง: "ลุงสมพงษ์" ช่างไฟฟ้าในกรุงเทพ ต้องกู้หนี้นอกระบบ 50,000 บาท ดอกเบี้ย 10% ต่อเดือน เมื่อลูกสาวประสบอุบัติเหตุรถชนและต้องการเงินค่ารักษาด่วน

เงินออมฉุกเฉินป้องกันหนี้ไม่คาดคิด
สร้างเงินออมฉุกเฉินช่วยป้องกันหนี้ไม่คาดคิด

3. ขาดความรู้การเงิน

รายละเอียด : ไม่เข้าใจกลไกดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมของหนี้ประเภทต่างๆ ขาดวินัยในการบันทึกรายรับรายจ่าย ไม่เห็นความสำคัญของ "เงินออมฉุกเฉิน"

ตัวอย่าง นิสิตปี 4: ใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าห้องเรียนพิเศษ 10,000 บาท คิดว่า "จ่ายขั้นต่ำแค่ 500 บาทก็พอ" แต่ไม่รู้ว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูงถึง 16-20%/ปี และหากจ่ายขั้นต่ำ จะใช้เวลาปลดหนี้ 4 ปี และจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มอีก 3,000 กว่าบาท! → หนี้บานเพราะไม่รู้กลไกดอกเบี้ยทบต้น

ตัวอย่าง พนักงานขาย: ไม่เคยบันทึกรายจ่าย ใช้เงินสดจ่ายตลอด แต่ไม่รู้ว่าเดือนๆ หนึ่ง "ค่าสุรา/บุหรี่" กินไป 3,000 บาท "ค่าเกมออนไลน์" อีก 2,000 บาท → เงินหมดโดยไม่รู้ตัว ต้องกู้สินเชื่อส่วนบุคคลมาปิดพอร์ตหรือกู้ finance (สินเชื่อรายย่อย) มาใช้ก่อนเงินเดือนออก

ตัวอย่าง : "ดี้" ฟรีแลนซ์วัย 25 ปี จ่ายบัตรเครดิตแค่ขั้นต่ำ 5% ทุกเดือนโดยไม่รู้ว่าเงินต้นแทบไม่ลด เพราะดอกเบี้ย 18% ต่อปีกินเงินต้น จนหนี้ 50,000 บาท ใช้เวลาปลดถึง 7 ปี !

4. บริหารหนี้ผิดวิธี

รายละเอียด : นำหนี้ใหม่มาโปะหนี้เก่าโดยไม่ได้ลดดอกเบี้ย จ่ายแค่ขั้นต่ำของหนี้ดอกเบี้ยสูง ทำให้หนี้ไม่ลดลง

ตัวอย่าง : เจ้าของร้านเล็ก: มีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบ รวม 100,000 บาท (ดอกเบี้ย 18%) จ่ายขั้นต่ำทุกเดือนไม่พอ ไปกู้ "สินเชื่อส่วนบุคคล" ดอกเบี้ย 24%/ปี มาโปะ → ดอกเบี้ยใหม่สูงกว่าเดิม หนี้เพิ่มแบบไม่รู้จบ

ตัวอย่าง : แม่บ้าน: มีหนี้ผ่อนรถ (ดอกเบี้ย 5%) กับหนี้บัตรเครดิต (ดอกเบี้ย 20%) แต่เลือกจ่ายหนี้ผ่อนรถเต็มที่ เพราะยอดมากกว่า (เดือนละ 5,000) ส่วนบัตรเครดิตจ่ายแค่ขั้นต่ำ (เดือนละ 1,000) → หนี้บัตรเครดิตไม่ลด เพราะดอกเบี้ยสูงกินเงินต้นทุกเดือน

ตัวอย่าง: "ป้าส้ม" มีหนี้บัตรเครดิตดอกเบี้ย 20% กับสินเชื่อรถดอกเบี้ย 5% แต่เลือกจ่ายค่างวดรถเต็มจำนวนเพราะยอดมากกว่า ส่วนบัตรเครดิตจ่ายแค่ขั้นต่ำ ผลคือหนี้บัตรไม่ลด 3 ปีติด !

5. เหตุผลอื่นๆ

รายละเอียด : การตัดสินใจทางการเงินที่ผิดพลาด หรือปัญหาจากการค้ำประกันผู้อื่น

ตัวอย่าง: : คนวัยทำงาน: ลงทุนในคริปโตฯ หรือหุ้น IPO โดยไม่มีความรู้ ขายขาดทุน 200,000 บาท → ต้องกู้หนี้มาปิดพอร์ต ลุงวัยเกษียณ: ไปค้ำประกันเงินกู้ให้หลาน 3 แสนบาท ปรากฏหลานทิ้งหนี้ → เจ้าหนี้ยึดเงินเดือนลุงแทน

ตัวอย่าง: "น้องภูมิ" ลงทุนคริปโตโดยไม่มีความรู้ ขาดทุน 200,000 บาท ต้องกู้สินเชื่อส่วนบุคคลมาปิดพอร์ต

7 ขั้นตอนแก้หนี้แบบเห็นผล

ขั้นตอนตัวอย่างการปฏิบัติจริงผลลัพธ์
1. หยุดก่อหนี้ใหม่ตัดบัตรเครดิต 3 ใบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยป้องกันหนี้เพิ่มเดือนละ 5,000+
2. สำรวจสถานะบันทึกหนี้ทุกบาทในสมุด/แอปเห็นภาพรวมหนี้ชัดเจน
3. ลดรายจ่ายเปลี่ยนจากกินข้าวนอกบ้านวันละ 150 เป็นทำอาหารเองวันละ 50ประหยัดเดือนละ 3,000
4. เพิ่มรายได้ขับ Bolt หลังเลิกงานวันละ 3 ชม.ได้เพิ่มเดือนละ 4,500
5. จัดลำดับหนี้ใช้วิธี Avalanche โฟกัสหนี้นอกระบบก่อนลดดอกเบี้ยได้เดือนละ 5,000
6. เจรจาเจ้าหนี้ติดต่อบัตรเครดิตขอปรับเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำดอกเบี้ยจาก 18% → 12%
7. สร้างวินัยออมฉุกเฉินอัตโนมัติเดือนละ 2,000มีเงินสำรอง 6 เดือนใน 2 ปี

ตัวอย่างการแก้หนี้

โปรไฟล์: พนักงานออฟฟิศ รายได้ 25,000 บาท/เดือน

สถานการณ์ :
  • หนี้บัตรเครดิต 80,000 (18%)
  • หนี้นอกระบบ 50,000 (10%/เดือน)
  • รายได้หลังหักรายจ่ายจำเป็น + ลดค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือ 12,500 บาท/เดือน สำหรับจ่ายหนี้ แผนแก้หนี้แบบ Avalanche:)
แผนภูมิแสดงการลดหนี้ 300,000 บาทใน 24 เดือน
ภาพ: แผนการปลดหนีี
วิธีแก้หนี้อย่างเป็นระบบ - คู่มือปฏิบัติจริง

วิธีแก้หนี้อย่างเป็นระบบ

คู่มือปฏิบัติจริง 7 ขั้นตอนสู่การปลดหนี้และชีวิตการเงินที่มั่นคง

หยุดสร้างหนี้เพิ่ม

ขั้นตอนที่ 1

รายละเอียด

ตัดแหล่งก่อหนี้ทันที ป้องกันปัญหาใหญ่ขึ้น

ตัวอย่าง

บัตรเครดิต: ตัดบัตรเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือแช่แข็งไว้ในถังน้ำแข็ง (ใช้เวลาละลายก่อนใช้)
สินเชื่อ: ปฏิเสธไม่กู้เพิ่ม แม้จะมีสายมาชวนกู้ "โอนหนี้ดอกเบี้ยต่ำ"
ใช้จ่าย: ซื้อของด้วยเงินสดเท่านั้น หรือใช้บัตรเดบิต (เงินในบัญชีหมดก็หยุดใช้)

สำรวจหนี้ทั้งหมด + รายรับรายจ่าย

ขั้นตอนที่ 2

รายละเอียด

รู้จักศัตรู (หนี้) และรู้กำลัง (เงิน) ของตัวเอง

ตัวอย่าง

หนี้: จดทุกก้อน! เช่น
  • บัตรเครดิต A: ยอดค้าง 80,000 ดอกเบี้ย 18%
  • สินเชื่อรถ B: คงเหลือ 150,000 ดอกเบี้ย 5%
  • หนี้นอกระบบ C: 50,000 ดอกเบี้ย 10%/เดือน
รายได้: เงินเดือน 25,000 + งานเสริม 5,000 = 30,000 บาท/เดือน
รายจ่ายจำเป็น: ค่าเช่า 6,000 + ค่าน้ำไฟ 1,500 + ค่าอาหาร 6,000 + ค่ารถ 3,000 + ค่าเทอมลูก 4,000 = 20,500 บาท/เดือน

ลดรายจ่ายไม่จำเป็น

ขั้นตอนที่ 3

รายละเอียด

ตัดทุกอย่างที่ "อยากได้" เหลือแค่ "จำเป็นจริงๆ"

ตัวอย่าง

เลิก: สูบบุหรี่ (ประหยัดได้ 1,500/เดือน) กินกาแฟร้านแพง (1,000/เดือน) ซื้อเสื้อผ้า/ของแต่งบ้าน (2,000/เดือน) เที่ยวทุกอาทิตย์ (3,000/เดือน)
ปรับพฤติกรรม: ทำอาหารใส่กล่องไปทำงาน (ลดค่าอาหารจากวันละ 150 เหลือ 70 บาท) ใช้ขนส่งสาธารณะแทนแท็กซี่ ปิดแอร์ใช้พัดลม
ผล: ลดรายจ่ายไม่จำเป็นได้ 7,500 บาท/เดือน

เพิ่มรายได้ (ถ้าเป็นไปได้)

ขั้นตอนที่ 4

รายละเอียด

หาเงินเข้ากระเป๋าเพิ่มชั่วคราวในช่วงแก้หนี้

ตัวอย่าง

งานเสริม: ขับรถส่งอาหารหลังเลิกงาน (ได้วันละ 300-500 บาท) รับจ้างกรอกข้อมูลออนไลน์ รับตัดเสื้อผ้าที่บ้าน
ขายของ: ขายเสื้อผ้าเก่า ของใช้ไม่จำเป็นผ่าน Facebook Marketplace / Vinted ขายทองเก่า (ถ้ามี)
ผล: เพิ่มรายได้ 5,000 บาท/เดือน

ทำงบประมาณ + จัดลำดับหนี้

ขั้นตอนที่ 5

รายละเอียด

วางแผนจัดสรรเงินให้ชัดเจน เลือกวิธีโฟกัสหนี้ที่เหมาะกับตัวเอง

ตัวอย่าง

งบประมาณใหม่:
  • รายได้ 30,000 + งานเสริม 5,000 = 35,000 บาท
  • รายจ่ายจำเป็น 20,500 + ตั้งค่าอื่นไม่คาดคิด 2,000 = 22,500 บาท
  • เหลือ 12,500 บาท/เดือน สำหรับจ่ายหนี้
จัดลำดับหนี้ (แบบ Avalanche - ลดดอกเบี้ยสูงสุด):
  • หนี้นอกระบบ C (50,000 ดอกเบี้ย 10%/เดือน): จ่ายให้หมด ASAP! เพราะดอกเบี้ยมหาโหด (เดือนแรกจ่ายเต็ม 12,500 ไปที่หนี้ก้อนนี้เลย)
  • บัตรเครดิต A (80,000 ดอกเบี้ย 18%/ปี): หลังหนี้นอกระบบหมด → จ่ายเพิ่มเต็มที่
  • สินเชื่อรถ B (150,000 ดอกเบี้ย 5%): จ่ายขั้นต่ำไปก่อน
ตั้งเป้า: คำนวณว่าหากจ่ายหนี้นอกระบบเดือนละ 12,500 บาท จะหมดใน ≈4 เดือน (ไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่ม)

เจรจาปรับโครงสร้างหนี้ / ขอความช่วยเหลือ

ขั้นตอนที่ 6

รายละเอียด

อย่าหลบหนี้! ติดต่อเจ้าหนี้ด้วยตัวเองแสดงความจริงใจ

ตัวอย่าง

เจรจากับเจ้าหนี้นอกระบบ: ขอเจรจาลดดอกเบี้ยจาก 10% เหลือ 3-5%/เดือน พร้อมสัญญาจ่ายคืนเป็นรายเดือน (อาจให้ญาติเป็นพยาน)
เจรจากับธนาคาร (บัตรเครดิต): ขอปิดบัญชีแล้วผ่อนชำระเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลแบบดอกเบี้ยคงที่ (ลดจาก 18% เหลือ 12%) หรือขอพักชำระ 3-6 เดือน (แต่ดอกเบี้ยยังเดิน)
รวมหนี้ (Debt Consolidation): ขอกู้สินเชื่อเพื่อรวมหนี้จากสหกรณ์ออมทรัพย์ ดอกเบี้ย 8% มาปิดหนี้บัตรเครดิต (18%) และหนี้นอกระบบ (120%) → ค่างวดลดลง ดอกเบี้ยถูกลง
ขอความช่วยเหลือจาก "ศคง. (โทร 1213)": หากถูกทวงหนี้อย่างไม่เป็นธรรม หรือต้องการคำแนะนำการเจรจา

สร้างวินัยหลังปลดหนี้

ขั้นตอนที่ 7

รายละเอียด

ป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ โดยสร้างเกราะป้องกัน

ตัวอย่าง

ออมฉุกเฉิน: หลังหนี้หมด ยังคงกันเงินเดือนละ 5,000 บาท เข้าบัญชีแยกจนครบ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายจำเป็น (6 x 20,500 ≈ 123,000 บาท)
ใช้บัตรเครดิตใหม่ (ถ้าจำเป็น): เลือกใบที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ตั้งค่า หักบัญชีเต็มจำนวนทุกเดือน ใช้แค่ซื้อของที่จำเป็นและมีเงินสดจ่ายได้อยู่แล้ว
บันทึกรายจ่ายต่อเนื่อง: ใช้แอปฯ เช่น MoneyLover, พร้อมเพย์ ดูรายงานการใช้เงินทุกสิ้นเดือน

เคล็ดลับสำคัญสู่ความสำเร็จ

เริ่มต้นวันนี้: ยิ่งเริ่มจัดการหนี้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น

ยึดมั่นในแผน: การแก้หนี้คือการวิ่งมาราธอน ต้องอาศัยวินัยและความสม่ำเสมอ

อย่าลืมดูแลตัวเอง: ท่ามกลางการแก้หนี้ อย่าลืมจัดสรรเวลาและเงินเพื่อพักผ่อนบ้าง

ขอความช่วยเหลือ: ไม่ต้องอายที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือคนที่คุณไว้ใจ

ฉลองความสำเร็จเล็กๆ: เมื่อบรรลุเป้าหมายย่อย ควรให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสร้างกำลังใจ

Scroll to Top